1. กว่าจะเป็นเมืองสร้างสรรค์
ท่านผู้ฟังทุกท่าน ดิฉัน อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บริหารท้องถิ่นซึ่งได้รับหน้าที่เป็น “ซิตี้เมเยอร์” หรือผู้นำเมืองตามนิยามของยูเนสโก ขออนุญาตแบ่งปันเรื่องราวของการผลักดันจังหวัดเชียงรายให้ได้รับการยอมรับเป็นหนึ่งในสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเมืองที่รองรับทั้งการท่องเที่ยวและการพัฒนาในระดับประเทศไปจนถึงระดับโลก
เชียงรายเป็นเมืองที่มีความร่วมมือกันจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานวัฒนธรรม สถาบันการศึกษา ศิลปิน และภาคเอกชน โดยในปี 2564 เราได้เสนอชื่อเชียงรายต่อยูเนสโกครั้งแรก ในครั้งนั้นเราได้เน้นการนำเสนอด้านความเป็นธรรมชาติและความงดงามทางศิลปะของเชียงราย แต่ยังไม่ผ่านการคัดเลือก
ความมุ่งมั่นและการเตรียมพร้อมครั้งที่สอง
ต่อมาในปี 2566 ทางคณะกรรมการและทีมงานร่วมกันตัดสินใจยื่นเสนอชื่อเชียงรายอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะยื่นได้ติดต่อกันเป็นครั้งที่สอง เพราะหากไม่ผ่านจะต้องรอระยะเวลานานเพื่อยื่นอีกครั้ง การยื่นครั้งที่สองนี้เราได้ไปนำเสนอต่อที่ประชุมที่เซี่ยงไฮ้ซึ่งมีเมืองสมาชิกเครือข่ายสร้างสรรค์จากทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 300 เมือง ครั้งนี้เราตระหนักว่าการเสนอเชียงรายจะต้องทำให้ดีที่สุด และที่สำคัญต้องรักษาชื่อเสียงของจังหวัดเชียงรายให้สมกับการได้รับเลือกเป็นเมืองสร้างสรรค์ระดับโลก
รากฐานการออกแบบที่ส่งเสริมความยั่งยืนของเมืองเชียงราย
เชียงรายเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์การออกแบบและการพัฒนาที่สั่งสมมาตั้งแต่ยุคพญามังรายมหาราช ผู้สร้างเมืองเชียงรายในยุคแรกได้ออกแบบการบริหารจัดการเมือง ระบบน้ำ และพื้นที่ลุ่มน้ำอย่างลงตัว ต่อมาเมื่อเกิดปัญหาธรรมชาติเสื่อมโทรมในยุคที่สอง สมเด็จย่าได้เข้ามาส่งเสริมการฟื้นฟูด้วยการจัดตั้งมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง และพัฒนาดอยตุงจากเขาหัวโล้นให้เต็มไปด้วยป่าไม้และเกิดเป็นพื้นที่ผลไม้เมืองหนาว นี่คือผลจากการออกแบบที่ตอบสนองต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมจนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
ความเป็นเมืองสร้างสรรค์ที่เปี่ยมไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรม
เชียงรายยังมีทรัพยากรด้านศิลปะ วัฒนธรรม และบุคคลากรที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และศิลปินอีกจำนวนมากที่สร้างสรรค์ผลงานที่งดงาม เชียงรายมีทั้งความหลากหลายทางวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ ผนวกกับความเป็นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม กลายเป็นเมืองขนาดเล็กที่มีเสน่ห์
ข่าวดีและการยอมรับอย่างเป็นทางการจากยูเนสโก
ในวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา จังหวัดเชียงรายได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการจากยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในเมืองเครือข่ายสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ ซึ่งเป็นการยอมรับถึงศักยภาพของเมืองและวิสัยทัศน์ในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเชียงราย
การได้รับสถานะเมืองสร้างสรรค์นี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราทุกคนและจะช่วยเสริมสร้างเชียงรายให้เป็นเมืองที่น่าภาคภูมิใจในระดับสากล
2. การเปลี่ยนแปลงในรอบ 1 ปี หลังเชียงรายได้รับเลือกเป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก
ดิฉันอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ขอแบ่งปันเรื่องราวที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงรายหลังจากที่เราได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบของยูเนสโกเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่เราภาคภูมิใจในฐานะเมืองที่ได้รับการยอมรับระดับสากล เราได้เดินหน้าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างเมืองที่น่าอยู่สำหรับทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือน
กิจกรรมและความก้าวหน้าในปีแรก
ตลอดปีที่ผ่านมา เราได้จัดกิจกรรมและริเริ่มโครงการหลากหลายภายใต้ความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ตั้งแต่สถาบันการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ไปจนถึงหน่วยงานท้องถิ่นและภาคเอกชน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพเมืองและพัฒนาพื้นที่ชุมชนให้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
กิจกรรมต่าง ๆ ได้ถูกจัดขึ้นในบริบทของความเป็นเมืองสร้างสรรค์ ทั้งการส่งเสริมงานศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่น และสิ่งแวดล้อม เรามีเป้าหมายให้เชียงรายไม่เพียงแต่เป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ยังเป็นเมืองแห่งความสุขที่ทุกคนสามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน
การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อการพัฒนาในอนาคต
เมื่อเร็วๆ นี้ ดิฉันมีโอกาสหารือกับผู้เชี่ยวชาญและผู้นำในท้องถิ่น เช่น อาจารย์พลวัชร ทีมงานเชียงรายพัฒนาเมือง และท่านจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด เราได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางที่จะพัฒนาเชียงรายต่อไปในฐานะเมืองสร้างสรรค์ เพื่อให้มั่นใจว่าเรากำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายการเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก
ทิศทางการพัฒนาเชียงรายในอนาคต
ในปีที่สอง เราตั้งเป้าที่จะทำงานเพื่อสานต่อความสำเร็จและรายงานความก้าวหน้าต่อยูเนสโก ซึ่งเราหวังว่าการดำเนินโครงการนี้จะช่วยแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความงดงามของเมืองเชียงรายในฐานะเมืองที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม อีกทั้งมีการออกแบบที่ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เชียงรายมุ่งมั่นที่จะสร้างเมืองแห่งความสุขและความสร้างสรรค์ ผ่านการร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นเมืองที่ดีต่อทั้งผู้ที่อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยวต่อไป
3. การออกแบบเมืองเชียงรายเพื่อรับมือภัยพิบัติ
ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จังหวัดเชียงรายประสบอุทกภัยอย่างรุนแรงทั่วทั้งจังหวัด แม่น้ำและลำน้ำสำคัญหลายสาย เช่น ลุ่มน้ำอิง ลำน้ำสาย แม่น้ำกบ และแม่น้ำลาวในอำเภอเวียงป่าเป้า ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและความเสียหายทางด้านจิตใจต่อพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก
ทบทวนและออกแบบใหม่เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
ในฐานะที่เชียงรายได้รับการประกาศให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ เราต้องคิดทบทวนถึงการพัฒนาและออกแบบเมืองใหม่ เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นไม่ให้กลับมาซ้ำอีก การออกแบบครั้งนี้ควรคำนึงถึงความรู้จาก “มังรายศาสตร์” หรือแนวคิดการจัดการเมืองในอดีตของพญามังราย ซึ่งเน้นการบริหารจัดการแหล่งน้ำ สายน้ำ และสิ่งแวดล้อมเพื่อปกป้องชุมชน
เชียงราย เมืองแห่งต้นน้ำกับการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
เชียงรายถือเป็นเมืองแห่งต้นน้ำ มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านและบรรจบสู่แม่น้ำโขง ได้แก่ แม่น้ำลาว แม่น้ำอิง แม่น้ำคำ แม่น้ำจันทร์ และแม่น้ำกก ทั้งนี้ แม่น้ำสายที่มีต้นกำเนิดจากรัฐฉานในประเทศพม่า ยังไหลมารวมที่จังหวัดเชียงราย ก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือการออกแบบและจัดการสายน้ำในพื้นที่ของเราให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดก่อนที่น้ำจะไหลลงแม่น้ำโขง
การวางแผนและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
การจัดการและออกแบบเมืองเพื่อรับมือกับภัยพิบัตินั้นจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน และประชาชนในจังหวัด การวางแผนจัดการน้ำแบบองค์รวมโดยคำนึงถึงการป้องกันและการฟื้นฟูพื้นที่ต้นน้ำและลำน้ำในจังหวัดเชียงรายเป็นสิ่งสำคัญ เราจึงจำเป็นต้องร่างแผนที่ของจังหวัดเชียงรายขึ้นใหม่เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจและร่วมมือกันในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างยั่งยืน
เชียงราย เมืองน่าอยู่และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในอนาคต
การออกแบบเมืองที่เน้นการป้องกันภัยพิบัติจะช่วยทำให้เชียงรายเป็นเมืองที่ปลอดภัยและน่าอยู่อย่างยั่งยืน สิ่งเหล่านี้จะส่งเสริมให้เชียงรายเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวจะมั่นใจในความปลอดภัยและความพร้อมของเมืองที่จะรองรับทั้งการพักผ่อนและการดำเนินชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
4. การท่องเที่ยวเพื่อสร้างผลกระทบทางสังคม (Social Impact Tourism)
ดิฉัน นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีหน้าที่ดูแลพื้นที่ทั้งหมด 18 อำเภอ 124 ตำบล และ 1,753 หมู่บ้านในจังหวัดเชียงราย มีมุมมองเกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยวเชียงรายที่มากกว่าการสร้างรายได้ เราควรเปลี่ยนแปลงรูปแบบการท่องเที่ยวจากการเน้นเศรษฐกิจเป็นหลัก มาสู่การท่องเที่ยวที่ส่งเสริมความเอื้ออาทรและความรับผิดชอบต่อสังคมในรูปแบบ Social Impact Tourism หรือการท่องเที่ยวเพื่อสร้างผลกระทบทางสังคม
การท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงสังคมและการเอื้อเฟื้อ
Social Impact Tourism คือการท่องเที่ยวที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างนักท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น การท่องเที่ยวรูปแบบนี้จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้มาเยือนและผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ส่งเสริมให้เกิดสังคมที่มีการเอื้อเฟื้อกันอย่างแท้จริง ซึ่งเชียงรายมีศักยภาพในการทำให้การท่องเที่ยวแบบนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการออกแบบและต้อนรับนักท่องเที่ยว
ภายใต้การจัดงาน “มหกรรมไม้ดอกอาเซียน” ดิฉันขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนในจังหวัดเชียงราย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน มาร่วมกันวางแผน ออกแบบ และต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก การออกแบบการท่องเที่ยวครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้เราได้นำเสนอเชียงรายในแง่มุมที่แท้จริง เปิดเผยพื้นที่ของเราให้โลกได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำอาชีพและวิถีชีวิตใหม่ หรือการร่วมกันสร้างสังคมที่มีการเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน
เชียงราย เมืองสร้างสรรค์ในสายตาของโลก
ดิฉันขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันทำให้เชียงรายกลายเป็นเมืองสร้างสรรค์ที่น่าอยู่และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในฐานะสมาชิกเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก การพัฒนาการท่องเที่ยวของเราจะเป็นมากกว่าแค่การดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ยังเป็นการสร้างความยั่งยืนและส่งเสริมความสุขให้กับชุมชนและนักท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กัน
การนำเสนอเชียงรายให้กับสายตาของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกคือการเชื้อเชิญพวกเขามาร่วมช่วยเหลือ พัฒนา และสนับสนุนเชียงรายให้กลายเป็นเมืองแห่งความสุข เมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต